ถ้าคุณบินไม่ได้...
ให้วิ่ง
ถ้าคุณวิ่งไม่ได้... ให้เดิน
ถ้าคุณเดินไม่ได้... ให้คลานไป
ขอให้รักษาความสม่ำเสมอเอาไว้
...ก้าวต่อไปเรื่อยๆ............ อะไรก็ตามที่คุณทำได้... จงทำ
ถ้าคุณวิ่งไม่ได้... ให้เดิน
ถ้าคุณเดินไม่ได้... ให้คลานไป
ขอให้รักษาความสม่ำเสมอเอาไว้
...ก้าวต่อไปเรื่อยๆ............ อะไรก็ตามที่คุณทำได้... จงทำ
มนุษย์เราส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่อย่างแข็งแรงได้ไม่เกิน
80 ปี
ดังนั้นอะไรที่อยากทำก็จงรีบทำซะ...คนเราเกิดมาบนโลกใบนี้จึงสมควรที่จะใช้ชีวิตไม่ใช่การถูกใช้ชีวิต
แต่บางครั้งภาระหน้าที่ๆมีทำให้ไม่สามารถก้าวออกไปได้
ความกลัวก็ไปอีกอย่างนึง
กลัวผลในอนาคต
ความหวาดกลัวเหล่านี้ทำให้ไม่กล้าที่จะก้าว
กลัวนู่น นี่ นั่น
กลัวสารพัดจะกลัวและเมื่อยิ่งคิดความหวาดกลัวยิ่งเติบโตจนถีบความกล้ากระเด็นหายไปครั้งแล้วครั้งเล่า....จนไม่กล้าขยับไปไหนเผลอแป๊ปเดียว...สิ่งแวดล้อม
สังคม
รอบข้างเปลี่ยนไปถึงไหนต่อไหน...และตัวเรากลายเป็นคนล้าหลังอย่างช่วยไม่ได้..คิดแล้วก็เสียดายเวลา
ดังนั้นการเตรียมตัวและเตรียมพร้อมจึงเกิดขึ้นมาเพื่อขจัดความกลัวให้หายไปเพราะเมื่อเราพร้อม
เรามั่นใจ ความกลัวยิ่งตัวเล็กมาก
ถึงมากที่สุด ยิ่งเตรียมตัวดี
มีแบบแผน มีขั้นตอนรองรับ
ยิ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับความกล้าเป็นทวีคูณ
และเมื่อเราพร้อม..เราจึงก้าว
ก้าวและก้าว ก้าวออกไปอย่างมั่นใจ
...แตกต่างจากความกล้าได้กล้าเสียอย่างสิ้นเชิง
เพราะการกล้าได้กล้าเสียมักมาพร้อมกับอารมณ์เป็นตัวแปรหลัก
ผลที่ออกมาจึงมีบ้างที่สำเร็จ
ไม่สำเร็จ บางคนอาจสูญเสียหลายอย่าง
ๆ อย่างไม่คาดคิด
เมื่อถึงจุดนั้นก็จะมาตีโพยตีพายว่าไหนล่ะ
ก็กล้าทำแล้วไงรู้งี้ตอนนั้นไม่ทำอย่างนี้เด็ดขาด
...กลายเป็นอย่างนั้นไปอีก
ไม่มีมนุษย์ปกติคนใดที่เดินแก้ผ้าล้อนจ้อนกลางถนน
ทางเดินเท้า ยกเว้นสติสัมปชัญญะบกพร่อง
ตั้งแต่ บ้า เมายา
เมาสารพัด..เอาเป็นว่ามันไม่มีสติอยู่กะตัวก็แล้วกันค่ะ
...ถ้าอยู่คนเดียวในโลกมันก็ไม่แปลก
หรือล่อนจ้อนในกลุ่มเดียวกันก็ไม่แปลก
แต่ที่แปลกคือเดินตามถนนสาธารณะหรือบนถนนที่รถวิ่งกันควักไขว่เนี่ยแหล่ะ...เช่นเดียวกันค่ะความกล้าและความกลัวก็คือสิ่งเดียวกัน
ที่เราจะต้องมั่นปรับปรุงให้เกิดสมดุลย์ในชีวิตและทุกการกระทำเพื่อสร้างความสุขในการตัดสินใจและเสพผลของมันอย่างภาคภูมิ...จึงเป็นความกล้าที่สวยงามและเรียกว่า
.ชัยชนะของชีวิต”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น