ว่าด้วยเรื่องการของความกล้าที่จะก้าวออกจากบริษัท(ลาออก นั่นเอง) เมื่อคิดที่จะลาออก เราก็จะต้องมีแผนการลาออกที่ชัดเจน แม้ว่าอารมณ์อยากลาออกขอเราจะเร่งเร้าซะเหลือเกิน แต่เราก็ควรตรึกตรองหาเหตุผลและมาตราการมารองรับการตัดสินใจในแต่ละครั้งของการตัดสินใจที่จะลาออกด้วยเพราะเมื่อลาออกแล้วก็เท่ากับว่าเราตัดท่อน้ำเลี้ยงชีวิตของตัวเองไปในทันที
ถามว่าท่อน้ำเลี้ยงในแต่ละเดือนที่เราตัดมันทิ้งไปแล้ว
อะไรจะเกิดขึ้น?..หลายคนก็มักตอบว่าก็ไปหางานทำ
ไปทำงานส่วนตัวหรือไปขายของ
อนาคตเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นเราจะรู้ได้อย่างไรเราจะหางานทำใหม่ได้ในเวลาอันสั้น
งานส่วนตัวที่ออกไปทำมันดีมีรายได้มากพอกับการดำเนินชีวิต
หรือขายของมันจะขายดิบขายดีหรือเปล่า?
แม้กระทั่งการถูกซื้อตัวด้วยเงินเดือนที่มากกว่าเดิม
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวัฒนธรรมขององค์กรใหม่ที่เราไปอยู่เหมาะกับเราหรือเปล่า
เพราะถ้าหากคำตอบที่ออกมาจากทุกคำถามคือ
ไม่แน่ใจ นั่นแสดงว่า
เราต้องมีการเตรียมพร้อม
อย่างที่รู้กันว่าเมื่อเรามีการเตรียมพร้อมที่ดีมากเท่าไหร่ความมั่นใจจะเพิ่มขึ้นตามมาและความกลัวจะลดน้อย
เมื่อทุกอย่างเป็นตามขั้นตอนทีเราวางแผนไว้
สิ่งที่ตามมาก็เข้าใกล้คำว่าสำเร็จ
ดังนั้น
การเตรียมการลาออกก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำเพราะเราต้องดูแลชีวิต
ทั้งชีวิตตัวเองและคนที่อยู่เบื้องหลัง
คนโสดอาจจะสบายหน่อยเพราะรับผิดชอบตัวเองอย่างเดียวแต่เมื่อตัวเองยังรับผิดชอบไม่ได้มันก็ต้องเดือดร้อนพ่อแม่
ครอบครัวเราน่ะแหล่ะ..หนีไม่พ้นหรอก
แล้วเตรียมพร้อมอย่างไร?
เราต้องรู้ค่าใช้จ่ายของตัวเองในแต่ละเดือนอยู่แล้ว
เราก็จดออกมาว่า
ภาระค่าใช้จ่ายของเราเท่าไหร่
เราต้องเตรียมมันไว้อย่างน้อย
6
เดือน
และต้องมีเงินฉุกเฉินรองรับอีก
6
เดือน
ถ้าตัวเราเองเป็นคนที่บริการเงินได้
6
กองมาก่อนก็ไม่ต้องคิดมากบวกเพิ่มไป
6
เดือนแล้วค่อยลาออก
เราก็จะไม่เครียดมากเมื่ออยู่ในสภาะที่ปราศจากท่อน้ำเลี้ยงเหมือนที่เคยผ่านมาเมื่อสมองไปเครียด
ไอเดียดี ๆ
ก็จะมาพร้อมกับการทำงานใหม่และทำให้เราสามารถกลับลำ
ขยัยบขาย
ต่อไปในทิศทางที่เป็นบวกและมีความสุขให้กับชีวิต
และในระหว่างเตรียมตัวลาออกเราควรทำอย่างไร?
อันดับแรกคือการทำใจ
เพราะมีไม่กี่คนหรอกค่ะที่ลาออกก็สามารถมีเงินใช้อย่างสุขสบายไม่ลำบาก
มีไม่ถึง 5
% หรอกค่ะในสังคมนอกนั้นภาระเพียบ
เดือนชนเดือนกันทั้งนั้น
ในช่วงของการเตรียมตัวเราควรหางานรองรับ(งานที่ตัวเองชอบและถนัด
หาอย่างตั้งใจนะคะไม่ใช่ขอให้ได้งานอะไรก็ช่างมันก่อนเหอะ
ไปแล้วค่อยว่ากันทีหลัง)
อย่างหลังนี่ไม่เอานะคะเพราะ...มันทุกข์สาหัสยิ่งกว่าการลาออกจากที่เก่าเยอะมาก
เหมือนหนีเสือปะจระเข้
อย่างนั้นเลย...การเตรียมตัว
ข้อสองคือ กำหนดระยะเวลาของการที่จะลาออก
เช่น อีก 3
เดือนจะลาออก
อีก 5
เดือนจะลาออก
และเมือ่เรากำหนดเวลาแล้วนั่นก็เท่ากับว่าเรามีเป้าหมายแล้วล่ะว่า
เราทนต่อเพียงเท่านี้แล้วเราก็จะเป็นอิสระ
ความกดดันในตัวจะน้อยลง
และดีใจเมื่อยิ่งเข้าใกล้วันที่เราจะไปนั่นเอง
ข้อ 3
เก็บเงินเตรียมลาออกให้พอกับค่าใช้จ่ายที่เรามีภาระ
+เพิ่มอีก
6
เดือน
ข้อ4
.ตั้งรางวัลให้ตัวเองว่าเมื่อทำครบทั้งหมดแล้วจะให้อะไรกับตัวเอง
เช่นไปเที่ยวในสถานที่ๆเราอยากไปตั้งนานแล้ว
1
เดือน
..ระยะเวลามี่ทนอยู่
จะกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความหวังขึ้นมาอย่างตื่นเต้นทันทีเลยล่ะค่ะเพียงเท่านั้นเราก็จะไม่ต้องบาดเจ็บหลังการตัดสินใจลาออกอีกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น