สถานที่ๆจะแนะนำในการไปเที่ยววันนี้เป็นสถานที่ใกล้กรุงเทพฯค่ะ จ.นครปฐม
ใกล้ๆจริงๆด้วยห่างจากกรุงเทพฯ 56 ก.ม เท่านั้นเอง จุดหมายปลายทาง
คือ พระราชวังสนามจันทร์(Sanam Chadra Place) ค่ะ ตัวผู้เขียนเองเคยมาที่เมื่อ 15 ปีก่อน
เลยอยากมารำลึกว่าเวลาที่เปลี่ยนไปพระราชวังสนามจันทร์จะยังสวยอยู่มั๊ย
การเดินทางไม่ยากค่ะ นั่งรถตู้จากอนุสาวรีย์ จุดใต้ทางด่วน ท่ารถที่เขียนว่า ม.ศิลปากร ค่ารถ 60 บาทเท่านั้น
เมื่อรถตู้มาถึงจุดหมายคือ ม.ศิลปากรก็ข้ามถนนและเดินเลียบมหาวิทยาลัยทางขวามือมาถึงสี่แยกแล้วเลี้ยวซ้านเดินตรงไป
800 เมตร ก็จะถึงประตูพระราชวังสนามจันทร์ ที่ด้านหน้ามีจุดซื้อตั๋ว 30 บาท
หากแต่งตัวไม่ถูกระเบียบ เช่นกางเกงแฟชั่นยีนต์ขาดเป็นริ้ว ๆ ขาสั้น
กระโปรงเลยเข่า เสื้อแขนกุด เสื้อบาง
ต้องซื้อผ้าซื่น 1 ผืนค่ะ ราคา 70 บาท(ขายขาดเอากลับบ้านได้)หากใครต้องการเช่ารถเพราะไม่อยากเดินหรือเดินไม่ไหว
มีรถให้เช่า 300 บาทต่อคันค่ะ
เมื่อผ่านประตูเข้ามาด้านขวามือจะมี บ้านเรือนไทย ชื่อว่า
พระตำหนักทับขวัญ(Thap Khwan Residence) สามารถขึ้นชมบนเรือนไทยได้ค่ะมีเจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวังให้ข้อมูลแต่ต้องถอดรองเท้าและห้ามถ่ายภาพค่ะ ว่า
พระตำหนักทับขวัญ เป็นพระตำหนักเรือนไม้ที่
รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเพื่อรักษาศิลปะเรือนไทยแบบโบราณเอาไว้
ค่ะและที่สำคัญอีกอย่างนึงสำหรับลูกเสือไทย
ที่นี่เป็นที่ตั้งกองบัญชาการเสือป่าด้วยนะคะ
ถัดจากว่า พระตำหนักทับขวัญ เ ราก็จะพบกับมารีราชรัตบัลลังก์
เป็นพระตำหนัก 2 ชั้นสร้างด้วยไม้สักทองค่ะ เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก(neo-classic)
แต่ปรับปรุงบางส่วนให้เข้ากับสภาพอากาศเมืองร้อน
พระตำหนักนี้มีสะพานเชื่อมข้ามคูน้ำไปยังพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ค่ะต้องถอดรองเท้าแล้วนำไปด้วยเดินข้ามสะพานไปค่ะ
พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ เดิมชื่อ พระตำหนักเหล
ค่ะ ด้านหน้าพระตำหนักมีอนุสาวรีย์ย่าเหลอยู่ค่ะ
รูปทรงพระตำหนักเป็นแบบผสมอังกฤษและฝรั่งเศสแต่ดัดแปลงให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศ
แดดร้อน ฝนตก น้ำท่วม แบบบ้านเราน่ะค่ะ...พระตำหนักจึงออกแบบมาอย่างที่เห็น
ที่นี่นอกจากเป็นที่พำนักในปลายรัชสมัย ร.6
แล้วยังเคยเป็นสำนักงานชั่วคราวในการออก หนังสือพิมพ์ดุสิตสมิตรายสัปดาห์ ด้วยนะคะ
สำหรับอนุสาวรีย์ย่าเหลด้านหน้าพระตำหนักมีเรื่องเล่าอยู่ว่า
ย่าเหลนี่เป็นสุนัขพันธ์ทางนะคะเกิดในเรือนจำนครปฐม
เป็นสุนัขของผู้ควบคุมนักโทษในสมัยนั้นคือ หลวงชัยอาญา ได้ถวายให้ ร.6 เมื่อครั้งเสด็จตรวจเรือนจำ..ย่าเหลเป็นสุนัขทรงโปรดค่ะเพราะความภักดีและฉลาดมาก
แต่ถูกยิงตายด้วยปืนลูกกรดเมื่อตอนลอบหนีออกจากวังไปเที่ยว ในขณะที่ ร.6 ไปถวายพานพุ่มณ.วัดเบญจมบพิตรและวัดพระเชตุพน
คาดว่าย่าเหลน่าจะไปหา ร.6 นี่แหล่ะค่ะ เพราะพบศพตายระหว่างถนนข้างวัดพระเชตุพนกับพระบรมมหาราชวัง...น่าสงสารจัง
ทำไมต้องยิงกันด้วยนะ
เดินต่อมาอีกสักหน่อยจะพบกับที่เห็นอยู่นี่คืออนุสาวรีย์ ร.6
ค่ะ บริเวณโดยรอบปลูกต้นจันทร์ซึ่งกำลังออกลูกเยอะแยะเลยนะคะ...ร.6
พระองค์ทรงมีความคิดที่นำสมัยและต้องการพัฒนาชาติไทย
ปุ้ยอัญเชิญพระดำริส่วนนึงของพระองค์มาให้เพื่อนได้อ่านกันนะคะ
" ในชั้นต้นกิจการต่าง ๆ คงต้องดำเนินการอย่างช้า
เพราะมีเครื่องกีดขวางอยู่หลายอย่างที่ฉันต้องข้าม เราอยู่ในสมัยที่ลำบาก เพราะเรามีขนบธรรมเนียมโบราณคอยต่อสู้ขัดขวางการเปลี่ยนแปลง
แต่ฉันไม่คิดจะยอมแพ้ ฉันยังหวังจะมีชีวิตนานพอ ที่จะทำให้สำเร็จ "
ถัดมาคือพระที่นั่งพิมานปฐม ร6.โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเมื่อดำรงพระอิสริยยศเป็นพระบรมโอรสาธิราช
สยามมกุฎราชกุมาร ปัจจุบันได้จัดแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติ ร6.และเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา
ที่นี่ชั้น 2 จะมีห้องพระรูป 8 เหลี่ยมที่ถือเป็น
UNSEEN ของจ. นครปฐมค่ะ
เพราะห้องพระแห่งนี้สามารถมองเห็นองค์พระปฐมเจดีย์และเทวาลัยคเณศร์
อยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันเลยล่ะค่ะ(ห้ามถ่ายภาพค่ะ)
สุดท้ายหลังจากเดินมานานนั่งพักเย็นๆสบายๆๆจากการเดินชมวัง..ริมน้ำอากาศเย็นสดชื่นมีตะกวดว่ายน้ำสนุกสนาน....ถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆๆคลายร้อนกันบ้างมั๊ยคะ...เอาล่ะหายเหนื่อยแล้วล่ะค่ะเย็นแล้วกลับกรุงเทพฯดีกว่า...มีความสุขกันทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตาคนในครอบครัวกับมื้อเย็นอร่อย ๆ นะคะ..ส่งเพื่อนฝันดี ราตรีสวัสดิ์/Good Night ค่ะ
พระราชวังสนามจันทร์ เปิดทำการทุกวัน 9.00-16.00 น.ปิดขายบัตร 15.30
น.หยุดวันนักขัตฤกษ์(ยกเว้น 12 สิหาคมและ 4 ธันวาคม)และ 25/11(วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า
ของทุกปี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น