โพสต์แรกของการเที่ยวคนเดียวแบบสบาย
ๆๆใกล้ๆก่อน
คือในกรุงเทพฯค่ะสถานที่ท่องเที่ยวที่ฉันจะแนะนำในวันนี้คิดว่าหลายคนรู้จักและผ่าน
แต่ยังไม่เคยมาที่นี่แบบจริงๆจังๆ
แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศส่วนมากน่าจะเคยมาเพราะอยู่ใกล้กับ
ถนนข้าวสาร นี่เองค่ะ
พระที่นั่งและสวนสาธารณะสันติชัยปราการ
(Santi Chai Prakan Pavilion and
Public Park) คุ้น ๆ แล้วใช่มั๊ยคะว่าอยู่แถว
ถ.พระอาทิตย์
ทำไมถึงต้องเป็นที่นี่ในการมาเที่ยว
? ก็เพราะเดินทางสะดวก
นั่งรถเมล์มาลงบางลำภู
เดินมาหน่อย ก็ถึงแล้ว
ถ้าสะดวกทางเรือ
ก็นั่งเรือมาขึ้นที่ท่าพระอาทิตย์
เห็นมั๊ยคะ
การเดินทางแสนสะดวกสบายและไม่ต้องขับรถมาให้ต้องรถติดอีกด้วย
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่สูง
มีสถานที่ให้เที่ยวรอบ ๆ
อีกมากมายเพียงเดินก็เที่ยวได้รอบแล้ว
แล้วที่นี่มีอะไรให้ดู
?
ที่นี่มีป้อมปืนค่ะ
เคยเป็นป้อมปราการ
สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่
1
จนมาเสร็จสิ้นลงในสมัยรัชกาลที่
3 ชื่อว่า
ป้อมพระสุเมรุ
แล้วยังนำชื่อมาตั้งเป็นถนนด้วย
คุ้น ๆ กันใช่มั๊ยคะ
กับถนนสุเมรุ
นั่นแหล่ะค่ะที่มาที่ไปของความเกี่ยวข้องกัน
สถานที่แห่งนี้ถูกบูรณะใหม่หลังจากทรุดโทรมไปตามกาลเวลาในรัชการที่
5 ค่ะ
และมีอยู่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
เรียกว่า “ สวนสันติชัยปราการ
” เป็นชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อครั้งได้มีการจัดทำโครงการบูรณะป้อมพระสุเมรุและปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์
โดยรอบเป็นสวนสาธารณะ
ได้มีการจัดสร้างพระที่นั่งเพื่อน้อมเกล้าฯ
ถวายเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ
6 รอบ
5
ธันวาคม พ.ศ.
2542 ซึ่งมีความหมายว่า
“ มีปราการที่เป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะของสันติภาพ
“
เดินเที่ยวไปรอบ
ๆ ป้อมทั้ง4
ทิศจะยังคงเห็นป้อมปืน
ที่เดิมสร้างขึ้นป้องกันข้าศึกตามกำแพงพระนครชั้นนอก
ปัจจุบันเหลืออยู่น้อยแล้วล่ะค่ะสำหรับป้อมปราการแบบนี้
บริเวณโดยรอบณ.ปัจจุบันปลอดภัยค่ะสำหรับการเดินคนเดียวเพราะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดอยู่ที่นี่
ห้ามดื่มสุรา สูบบุหรี่
ไม่ต้องกลัวอันตรายค่ะ
พักผ่อนหย่อนใจได้อย่างสบายใจตามถนัด
กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของที่นี่คือ
ออกกำลังกาย ตั้งแต่แอโรบิค
และสารพัดการออกกำลังกายตามถนัดจะมาเดี่ยวหรือมาเป็นกลุ่ม
การแลกเปลี่ยนด้านภาษา(ต่างชาติเยอะค่ะ)
อ่านหนังสือ
ถ่ายภาพ(การถ่ายภาพนี่ข้อเด่นเลยค่ะ)เพราะสามารถมองเห็นสะพานพระรามแปดได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
สามารถตั้งกล้องถ่ายจนพอใจกี่รูปก็ได้
เพราะนอกจากจะได้วิวแม่น้ำและสะพานแล้ว
ยังสามารถถ่ายรูปพระที่นั่งที่วิจิตร
งดงาม แต่เข้าไปนั่งไม่ได้นะคะต้องอยู่ชมรอบนอกเท่านั้น
ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย
คือ ต้นลำพู ต้นสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่
โดยมีการสร้างแนวไม้ไว้กันคลื่นลูกโตๆ
จะมากระทบต้นลำพูต้นสุดท้ายนี้ไว้
เพื่อจะรักษาให้ต้นลำพูต้นสุดท้ายนี้มีชีวิตอยู่ให้นานที่สุดให้ลูกหลานได้เห็นว่า
หน้าตาต้นลำพูเป็นยังไง
ถ้าย้อนกลับไปหลายร้อยปีก่อนแถวนี้จะมีต้นลำพูขึ้นอยู่หนาแน่น
มีหิ่งห้อยวิบวับ จนต้องเรียกแถวนี้ว่า
บางลำพู นี่แหล่ะค่ะที่มา
จะเห็นได้ว่าจุดเล็ก
ๆ
เหล่านี้ล้วนมีประวัติความเป็นมาของชาติให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึงอดีตที่เคยเป็นมา
ได้เล่าขานสืบต่อกันไปนานเท่านานตราบที่ยังมีผืนแผ่นดินไทยได้อยู่อาศัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น